บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2020

5 วิธีง่ายๆ ออกแบบชีวิตให้มีความสุข ได้ด้วยตัวเอง

รูปภาพ
  5  วิธีง่ายๆ ออกแบบชีวิตให้มีความสุข ได้ด้วยตัวเอง ภาพจาก:  Alexas_Fotos /pixabay ความไม่สบายกาย  ได้พักผ่อน ก็หายเหนื่อย แต่  ความไม่สบายใจ  ต้องรู้จักปล่อยวางจึงจะหาย หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า " จิต   เป็นนาย   กาย   เป็นบ่าว   เพราะจิตใจที่แข็งแกร่ง ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกขับเคลื่อนให้เดินหน้าต่อไปได้   "  เหนื่อย อะไรก็ได้ แต่อย่า เหนื่อยใจ       ท้อ อะไรก็ได้ แต่อย่า ท้อใจ       หมด อะไรก็หมดได้ แต่อย่า หม ดกำลังใจ ” ทุกอย่างเป็นไปได้ถ้าใจเราพร้อม ใจเราสู้ ถ้าเราหมดกำลังใจแล้วนั้น อะไรๆก็ดูเหมือนจะยากไปหมด หากใครผ่านมาและได้อ่านบทความนี้ผู้เขียนขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ ให้ทุกคนสู้ๆ กับชีวิตต่อไปนะคะ เราชีวิตเป็นของเรา เราอยากทำอะไร อยากเป็นแบบไหน ชีวิตเราเราออกแบบได้      ด้วย  5  วิธี ที่จะช่วยปลุกพลังในตัวเรา ให้ชีวิตที่มีความสุข แบบที่เราต้องการ   1.  ฝึกคิดบวกเข้าไว้   ใจเราจะเป็นสุข ภาพจาก:  sweetlouise /pixabay ฝึกตัวเราให้เป็นคนคิดบวกอยู่เสมอ คำว่า คิดบวก คือ  การอยู่ในโลกของความเป็นจริง กล้าที่จะยอมรับความจริง   ไม่โกหกตัวเอง เรายอมรับในที่นี้ไม่ได้หมายความเร

Articles A,An,The

รูปภาพ
Articles A,An,The Ariticles ทำหน้าที่นำหน้าคำนาม แบ่ง article ออกเป็น 2 ชนิด 1. Identifinite article ได้แก่ a,an ใช้นำหน้าคำนามทั่วไปไม่ชี้เฉพาะ 2. Definite article ได้แก่ the ใช้นำหน้านามที่ชี้เฉพาะเจาะจง การใช้ Identifinite article (a,an) 1. ใช้หน้านามนับได้เอกพจน์ซึ่งกล่าวโดยทั่วไปไม่เจาะจง ซึ่งมีความหมายว่า เป็น หนึ่ง (one) ก็ได้ ข้อควรจำ ปกติจะต้องใส่  a,an  เมื่อกล่าวถึงคำนามเอกพจน์ นับได้ ที่มีสิ่งเดียว  และ ใช้ an นำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ หรือ ออกเสียงเป็นสระ ขึ้นต้นด้วยสระ เช่น         an apple       = แอ็ปเปิ้ล 1 ผล         an idea         = ความคิด หนึ่งๆ         an eraser      = ยางลบ 1 อัน         an ox            = วัวตัวผู้ 1 ตัว         an umbrella  = ร่ม 1 คัน                   ออกเสียงเป็นสระ เช่น          an hour        = 1 ชั่วโมง         an hier         = ทายาท 1 คน         an honor      = เกียรติ อย่างหนึ่ง 2. ใช้บอกอัตรา (per) เช่น   We learn English six hours  a week.         We have three meals  a day.         He can type 50 words  a minute .         She dr

Saying Goodbye (การกล่าวลา)

รูปภาพ
Saying Goodbye ในการกล่าวลา เพื่อน หรือบุคคลอื่นๆ สามารถพูดได้หลายแบบ เช่น Goodbye , Bye , Bye -Bye เหล่านี้ เป็นคำง่ายๆที่เอาไว้ใช้เพื่อบอกลา เมื่อต้องจากกัน Goodbye    มีความหมายว่า  "ลาก่อน"   ใช้กล่าวลากันเมื่อต้องจากกัน เป็นคำกล่าวอย่างสุภาพและเป็นทางการ และเป็นคำมาตรฐานที่สามารถใช้ได้ทุกโอกาส อาทิเช่น เมื่อจบบทสนทนาในการคุยโทรศัพท์ บอกลาเพื่อนเมื่อต้องกลับบ้าน หรือ บอกลาครู เมื่อจบชั่วโมงเรียน เป็นต้น Bye มีความหมายว่า  "ลาก่อน"    เป็นคำย่อของคำว่า Goodbye เป็นคำพูดระดับกึ่งทางการ หรือ ไม่เป็นทางการเลย ใช้พูดกับเพื่อน บอกลาอย่างเป็นกันเอง Bye-bye มีความหมายว่า  "ลาก่อน"    “บ๊ายบาย” ในภาษาอังกฤษจริงๆ คือการเล่นเสียงของ Bye ให้ฟังดูน่ารัก ขี้เล่นมากขึ้น สามารถใช้พูดบอกลาได้เช่นกัน แต่ฝรั่งไม่ค่อยนิยมพูดกัน   มาดูการบอกลาที่ไม่มีคำว่า Bye ดังนี้ ที่ฝรั่งนิยมใช้กัน         - See you later.      แล้วเจอกันนะ         - See ya.                แล้วเจอกัน         - Take care.           ดูแลตัวเองด้วยนะ         - Have a nice day. ขอให้เป็นวันที่ดีนะ         

Telling the Numbers (1-50)

รูปภาพ
Telling the NUMBERS 1-50   วันนี้นะคะครูจะพาทุกคนมานับเลขหนึ่ง-ห้าสิบเป็นภาษาอังกฤษง่ายๆกันค่ะ นักเรียนก็นับได้ใช่มั้ยคะ มาเริ่มกันค่ะ   คำศัพท์                            คำอ่าน                             คำแป ล one                                        /วัน/                               หนึ่ง two                                /ทู/                                  สอง three                             /ทรี/                                 สาม four                               /โฟ/                                 สี่ five                              /ไฟฟ์/                                 ห้า six                                /ซิก/                                  หก seven                         /เซเว่น/                               เจ็ด eight                            /เอ็ท/                                 แปด nine                            /ไนน์/                                  เก้า ten                              /เท็น/                                  สิบ eleven        

Classroom Objects (สิ่งของในห้องเรียน)

รูปภาพ
        รวมคำศัพท์น่ารู้ เกี่ยวกับสิ่งของในห้องเรียน ต้อนรับเปิดภาคเรียน Welcome back to school  เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID 19) ที่แพร่ระบาดขึ้นทั่วโลก จึง ทำให้ต้องเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/63 จากวันที่ 16 พฤษภาคม เป็น 1 กรกฎาคม  เชื่อว่าน้องๆนักเรียนหลายคนคงตื่นเต้นกับการเปิดภาคเรียนครั้งนี้อยู่ไม่น้อยและคงตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้เจอหน้า เพื่อนๆ   เพื่อต้อนรับกลับสู่ห้องเรียนอีกครั้งในรอบสามเดือนที่ห่างหายจากห้องเรียนไป วันนี้ครูจึงได้รวบรวมคำศัพท์ที่น่ารู้เกี่ยวกับสิ่งของในห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ทบทวนและเรียนรู้ไปพร้อมกันค่ะ                   school bag             สะคูแบ็ก                กระเป๋านักเรียน                   pencil                     เพ็นซิ่ว                  ดินสอ                   eraser                    อิเระเซอะ               ยางลบ                   ruler                       รูเล่อะ                    ไม้บรรทัด                   pen                        เพ็น                       ปากกา                   pencilcase       

Telling the Time (การบอกเวลา)

รูปภาพ
        สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้นะคะเราจะมาพูดถึงเรื่องการบอกเวลา หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Telling the time นะคะทุกคน การบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษถามและตอบยังไง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้ทุกคนได้กระจ่างไปพร้อมๆกันค่ะ        การบอกเวลามี 2 แบบ มีทั้งแบบ American English และแบบ British English นะคะ หรือเรียกง่ายๆว่า การบอกเวลาแบบง่ายและ การบอกเวลาแบบยาก        วันนี้เราก็เลยนำเทคนิคดีๆเกี่ยวกับการบอกเวลาแบบง่าย หรือที่เรียกว่า การบอกเวลาแบบAmerican English และการบอกเวลาแบบยากหรือที่เรียกว่า การบอกเวลาแบบBritish English  มาฝากทุกคนกันค่ะ การถามเวลา ประโยคที่ใช้ถามว่า เวลาเท่าไหร่แล้วครับ/ค่ะ ถามได้ดังนี้ สำหรับการถามเวลาเราสามารถพูดว่า: 1. What’s the time? 2. What time is it? 3. Do you have the time? 4. Have you got the time? 5. What time do you make it? วิธีหลักๆในการบอกเวลาจะแบ่งเป็น 2 แบบ 1. การบอกเวลาแบบง่าย (แบบ American English)   อย่างที่บอกเลยนะคะคือบอกง่ายๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมาย เห็นเลขอะไรอ่านตัวเลขนั้นเลย มาดูตัวอย่างกันค่ะ  การอ่านเวลา แบบ  American English  อ่านตามตัวเล

Countable Noun and Uncountable Noun (คำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้)

รูปภาพ
Countable Noun and Uncountable Noun (คำนามนับได้ และ คำนามนับไม่ได้)      สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่าน สำหรับวันนี้ เราจะมาพูดถึง เรื่อง Countable and Uncountable Noun ว่าคำนามเหล่านี้ มีความพิเศษอย่างไร แยกแยะอย่างไร จะรู้ได้ยังไงว่าคำไหนนับได้ คำไหน นับไม่ได้ บอกได้เลยว่า ง่ายนิดเดียว!! มาดูไปพร้อมๆกันค่ะ คำนามนับได้  (Countable Noun)   " คำนามนับได้"  หมายถึง คำนามที่เราสามารถนับและระบุจำนวนได้อย่างชัดเจน คำนามนับได้นี้ เราจะสามารถเติม  s,es  ได้  ***คำนามนับได้นั้น เป็นได้ทั้ง เอกพจน์และพหูพจน์         **ถ้าเป็นคำนามเอกพจน์ จะใช้ " a"  หรือ " an"  นำหน้านำนามนั้น        **ถ้าเป็นคำนามพหูพจน์ จะเติม  s  และเติม  es  ท้ายคำนามนั้น ๆ       **ถ้าต้องการถามถึงจำนวนของคำนามนับได้เหล่านี้ เราจะถามโดยใช้ " How many?"  ตามด้วยคำนามนับได้พหูพจน์   เช่น   Q:  How many dogs do you have? ( คุณมีสุนัขกี่ตัว)          A: I have three dogs.  ( ฉันมีสุนัขอยู่  3  ตัว)   เอกพจน์ พหูพจน์ one cat two cats one watch two watches one man two men one chair two chairs one